SM Club IT: 08/01/13

Y

วันพฤหัสบดีที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2556

Driver Genius Professional โปรแกรมหาไดร์เวอร์ที่หายไปในเครื่อง

Driver Genius Professional โปรแกรมหาไดร์เวอร์ที่หายไปในเครื่อง

เวลาซื้อโน้ตบุ๊กมาใหม่หรือมีคอมพิวเตอร์แล้วหาแผ่นไดร์เวอร์ไม่เจอจะไปค้นที่หน้าเว็บไซต์ผู้ผลิตเองก็ไม่สะดวกอย่างนี้ หลายคนอาจถอดใจไปแล้วก็ได้แต่อย่างไรก็ตามเมื่อคนมีปัญหาเช่นนี้เหมือนกันทำโปรแกรมสำหรับค้นหาและติดตั้งไดร์เวอร์มาให้ใช้งานอย่าง Driver Genius Professional ที่จะช่วยหาไดร์เวอร์ที่ตรงกับฮาร์ดแวร์ที่ติดตั้งเอาไว้ในเครื่องของเรามาติดตั้งให้โดยอัตโนมัติ
1
เมื่อเริ่มต้นใช้งานที่หน้า Home นั้น ตัวโปรแกรมจะมีคำสั่งให้เราสามารถสแกนไดร์เวอร์ที่ยังไม่ได้อัพเดทหรือเป็นไดร์เวอร์ที่ไม่ได้ติดตั้งเอาไว้ในเครื่องก็สามารถหามาติดตั้งได้โดยกดที่คำสั่ง “Start Scan” สีเขียวเพื่อเริ่มทำงานได้ในทันที
2
พอกดแล้วตัวเครื่องจะแสกนหาไดร์เวอร์ภายในเครื่องในทันทีและเราจะไม่สามารถสลับไปใช้งานฟังก์ชั่นอื่นของโปรแกรมนี้ได้ โดยขั้นตอนนี้จะกินเวลาสักครู่หนึ่ง แนะนำให้ปล่อยโปรแกรมทำงานไปสักครู่แล้วค่อยกลับมาดูก็ได้ว่าตอนนี้โปรแกรมแสกนเครื่องไปถึงขั้นตอนไหนแล้ว
3
ตัวเครื่องจะแสดงไดร์เวอร์ที่ตกหล่นไปว่ามีไดร์เวอร์ไหนบ้าง โดยจะแสดงเป็นตัวอักษรสีแดงว่าตอนนี้ไดร์เวอร์ไหนบ้างที่ขาดไปแล้วมีอีกกี่ไดร์เวอร์ที่ต้องอัพเดท โดยเราสามารถเลือกได้ว่าต้องการอัพเดททันทีโดยกด Update drivers now หรือจะกดคำสั่ง Ask me later เพื่อรอเอาไว้อัพเดทภายหลังก็ได้เช่นกัน
4
สิ่งหนึ่งที่ผู้ใช้ต้องเข้าใจคือโปรแกรมนี้ไม่ใช่โปรแกรมฟรี ดังนั้นจึงจำเป็นต้องสั่งซื้อผ่านทางออนไลน์ให้ทางเจ้าของผู้พัฒนาโปรแกรมส่ง License Code มาให้ โดยราคาของโปรแกรมนี้สำหรับคอมพิวเตอร์ 1 เครื่องนั้นอยู่ราว 1,000 บาทด้วยกัน ซึ่งราคานั้นโดยส่วนตัวแล้วทางทีมงานเห็นว่าถ้าใครที่ต้องการให้ไดร์เวอร์ได้รับการอัพเดทอยู่เสมอก็แนะนำให้ชำระเงินเอาของแท้มาใช้งานจะดีกว่า
5
ตัวโปรแกรมจะแสดงไดร์เวอร์ที่ต้องการอัพเดทให้เรา ซึ่งเราสามารถกดที่คำสั่ง Fix now เพื่อจัดการอัพเดทหรือติดตั้งไดร์เวอร์ให้เป็นเวอร์ชั่นใหม่ล่าสุดได้เลย
6
ส่วนของการแบ็คอัพไดร์เวอร์นั้นเมื่อเรากดแล้วตัวโปรแกรมจะจัดการแสกนตัวไดร์เวอร์ให้เราแล้วเก็บข้อมูลทั้งหมดให้เราโดยอัตโนมัติแล้วโปรแกรมจะถามว่าเราต้องการแบ็คอัพส่วนใดและที่ไหนบ้าง
8
ในส่วนของ Hardware Info เองก็เป็นอีกคำสั่งหนึ่งที่เอาไว้เช็คฮาร์ดแวร์ของเครื่องเราได้อย่างละเอียดทีเดียวไม่ว่าจะเป็นระบบปฏิบัติการ, ซีพียู, เมนบอร์ดของเราว่าเป็นเวอร์ชั่นไหนอย่างไรบ้าง โดยเราสามารถเช็คตัวเครื่องได้อย่างละเอียดมากทีเดียว ซึ่งถ้าใครอยากได้โปรแกรมนี้ไปใช้งานก็สามารถดาวน์โหลดได้ที่ลิ้งค์ด้านล่างนี้เลย

Download : Driver Genius Professional ; File Size = 10.2 MB

อ้างอิง notebookspec.com

[Tip] บูตเข้าหน้า Desktop ทันที ไม่มีง้อ Start screen ใน Windows 8

บูตเข้าหน้า Desktop ทันที ไม่มีง้อ Start screen ใน Windows 8
เป็นที่ทราบกันดีว่าหน้าต่าง Start screen บนระบบปฏิบัติการ Windows 8 นั้น ได้รับการออกแบบมาเพื่อดีไวส์หรืออุปกรณ์ที่เป็น Touch screen เป็นส่วนใหญ่ ด้วยหน้าจอที่เป็น Metro UI ขนาดใหญ่และรองรับการเลื่อนซ้าย-ขวาได้อิสระ ทำให้เรียกใช้แอพพลิเคชันได้สะดวก ซึ่งก็เป็นเรื่องที่ดี แต่ถ้ามองกันในแง่ของผู้ใช้ที่ไม่ได้ทำงานร่วมกับระบบหน้าจอสัมผัสหรือใช้กับคอมพิวเตอร์หรือโน้ตบุ๊กพื้นฐานทั่วไป Start screen ก็คงไม่ใช่ทางเลือกที่ง่ายนัก หลายคนเลือกที่จะเข้าสู่หน้าจอเดสก์ทอปให้ไวที่สุด เพื่อที่จะเรียกใช้งานฟังก์ชันต่างๆ ผ่านรูปแบบที่คุ้นเคยมากกว่า วันนี้เราลองมาเอาใจคนที่ไม่ค่อยได้สนใจหน้า Start screen กัน ด้วยการเข้าหน้าจอเดสก์ทอปทันที แบบไม่ต้องมาแวะหน้า Start screen ให้เสียเวลา
1
ในขั้นแรกให้เข้าไปยัง Task scheduler ด้วยการเปิดจาก Charm bar หรือเรียกจาก Search แล้วพิมพ์ Task scheduler ก็ได้เช่นกัน
2
เมื่อเข้าสู่หน้าต่างของ Task scheduler แล้ว ให้ไปคลิกที่ Task scheduler library แล้วเลือก Create Task… ทางด้านขวาของหน้าต่าง ในแถบของ Task scheduler (Local)
3
เมื่อหน้าต่าง Create Task ปรากฏขึ้น ให้ไปที่แท็บ General แล้วพิมพ์คำว่า Boot to Desktop ในช่องของ Name ที่อยู่ด้านบน เพื่อเป็นการตั้งชื่อ Task ดังกล่าวนี้
4
จากนั้นมาในแถบของ Triggers แล้วให้คลิกที่ New… ทางด้านล่างของหน้าต่าง
5
เมื่อเข้าสู่หน้าต่างของ New Trigger แล้ว ให้ไปที่บรรทัดของ Settings แล้วเลือกดรอปดาวน์ลิสต์ ที่บรรทัด At log on จากนั้นคลิก OK เพื่อยืนยัน
6
ให้คลิกไปที่แถบของ Actions จากนั้นคลิก New… ที่ด้านล่างของหน้าต่างอีกครั้ง
7
ใส่คำว่า explorer ในช่องของ Program/script เพื่อเป็นการระบุการทำงานของโปรแกรมอีกครั้งหนึ่ง จากนั้นคลิก OK
เพียงเท่านี้เมื่อบูทเครื่องใหม่อีกครั้ง ระบบก็จะเข้าสู่การทำงานของหน้าเดสก์ทอปทันที แบบที่ไม่ต้องไปแวะเข้า Start screen ให้เสียเวลา ซึ่งก็เป็นวิธีง่ายๆ ในการเข้าสู่หน้าจอเดสก์ทอปได้อย่างรวดเร็ว เพราะสำหรับคนที่ไม่ได้หน้าจอทัชสกรีน แล้วต้องการที่จะเข้าสู่การทำงานได้รวดเร็วขึ้น

อ้างอิง  notebookspec.com

Start MenuX สร้างเมนูสตาร์ทฉลาดๆ บน Windows 8

Start MenuX สร้างเมนูสตาร์ทฉลาดๆ บน Windows 8


ก่อนหน้านี้เราเคยได้นำเสนอเกี่ยวกับการหาทางออกในเรื่อง Menu Start ที่หลายคนพยายามขวนขวายหามาใช้ เพราะบน Windows 8 นั้นถูกถอดออกไปอย่างไม่มีดี ทางแก้ด้วยการนำมาใส่ใน Task bar ก็เหมือนกับว่าไม่ใช่ทางออกที่ดีนัก เนื่องจากใช้งานยาก ไม่ค่อยยืดหยุ่น ที่สำคัญไม่สวยโดนใจเหมือนกับที่เคยใช้บน Windows 7 ซึ่งก็ทำให้เสียอารมณ์พอสมควร แต่วันนี้ไม่ต้องนั่งเศร้าอีกต่อไปแล้ว เพราะโปรแกรม Start MenuX มีทางออกแบบแฮปปี้เอนดิ้งให้คุณ ที่จะได้สัมผัสกับ Menu Start อันสวยโดยใจ แถมยังใช้งานง่ายแบบง่ายๆ มาให้ได้รู้จักกัน
Start MenuX เป็นโปรแกรมสำหรับสร้าง Start Menu แบบน่ารักๆ ที่ใช้งานง่าย ให้การทำงานและสัมผัสที่คล้ายคลึงกับการใช้งานบนวินโดวส์ในรุ่นผ่านๆ มา ไม่ว่าจะเป็นรูปร่างหน้าตาหรือฟังก์ชันให้ปรับแต่งได้ในระดับหนึ่ง ซึ่งมีให้เลือกทั้งแบบฟรีและแบบ Pro ที่ต้องเสียค่าใช้จ่าย แต่ก็จะได้ลูกเล่นที่มากขึ้น ส่วนจะคุ้มหรือไม่และใช้งานยากง่ายอย่างไร ต้องลองมาดูกัน อันดับแรกให้ไปดาวน์โหลดโปรแกรม Start MenuX มาเสียก่อน โดยเข้าไปที่ www.startmenu7.com จากนั้นก็ติดตั้งและพร้อมใช้งานได้ทันที

เมื่อติดตั้งเสร็จเรียบร้อยแล้ว จะสังเกตได้ว่ามีโลโก้หน้าต่างคล้ายกับ Windows 8 แสดงขึ้นมาที่มุมซ้ายล่างของหน้าต่าง ซึ่งเป็นตำแหน่งเดียวกับ Start Menu ปกติที่เคยใช้กันบนวินโดวส์ 7 นั่นเอง

เมื่อคลิกเข้าไปไม่ว่าจะเป็นแอพพลิเคชันหรือฟังก์ชันต่างๆ ที่อยู่บนวินโดวส์ ก็จะถูกนำมาไว้รวมกัน พร้อมแยกหมวดหมู่ออกอย่างชัดเจน เพื่อเรียกใช้งานได้สะดวกยิ่งขึ้น

แสดงให้เห็นว่าในแต่ละเมนู มีเครื่องมือต่างๆ มาให้อย่างครบครันจริงๆ ไม่ต้องมาเรียกทีละตัว เพราะบางทีจำชื่อแอพฯ ไม่ได้ ก็จะกลายเป็นปัญหาทันที แถมยังดูคุ้นเคยกันเป็นอย่างดีอีกด้วย

หัวข้อ Option ที่อยู่บริเวณด้านล่างขวาของโปรแกรม เอาไว้ใช้สำหรับปรับแต่ง เพื่อให้งานได้ตรงกับการใช้งานมากยิ่งขึ้น

ในหน้า Option นี้ สามารถปรับแต่งการใช้งานต่างๆ ได้ตั้งแต่ System Information, Personalization, Start button และ Control ในหน้าแรกนี้มีให้ปรับตั้งแต่ ในส่วนของการทำงานของโปรแกรมร่วมกับระบบปฏิบัติการ

หน้าถัดมาเป็นในส่วนของ Personalization สำหรับการปรับแต่งหน้า Metro UI และรายละเอียดการจัดหมวดหมู่ของโปรแกรม

ในส่วนของ Start button สำหรับการเปลี่ยนปุ่ม Start ที่จะแสดงผลบนหน้าจอนั่นเอง มีให้เลือกหลายรูปแบบทีเดียว

สำหรับการเปลี่ยนปุ่มในการเรียกใช้โปรแกรมต่างๆ เราสามารถกำหนดเองได้ ว่าจะใช้ปุ่มใดเพื่อเรียกใช้งานนั่นเอง

หรือถ้าต้องการจะเพิ่มไอเท็มเข้าสู่หน้าเมนู Start เช่นเดียวกับการ Pin หรือ UnPin บนเมนูปกติ ก็สามารถคลิกที่ปุ่มรูป โฟลเดอร์ที่มีเครื่องหมายบวกสีเขียวด้านบน

จากนั้นเลือกไปที่โปรแกรมหรือฟังก์ชันที่มีให้เลือกทั้ง Commands, Folder และ Line ให้คลิกหน้าโปรแกรมที่ต้องการ เมื่อเลือกเสร็จเรียบร้อย ก็จะสังเกตได้ว่า เมนูโปรแกรมที่เราเลือกมานั้น จะมาปรากฏอยู่ที่หน้า Start Menu ให้ทันทีเพื่อพร้อมใช้งาน
นับว่า Start MenuX เป็นโปรแกรมที่นอกจากช่วยให้เราได้ใช้ Menu Start ได้สมใจอยากบน Windows 8 แล้ว ยังรับหน้าที่จัดการการเรียกใช้งานอุปกรณ์ต่างๆ มาอย่างครบครัน แม้ว่าจะเป็นฟรีเวอร์ชัน แต่ก็ใช้งานได้อย่างน่าทึ่งทีเดียว

อ้างอิง notebookspec.com

[Tip] Shutdown และ Restart สำหรับ Windows 8 ในคลิกเดียว

Shutdown และ Restart สำหรับ Windows 8 ในคลิกเดียว

เชื่อว่าหลายคนน่าจะรู้สึกแบบเดียวกัน กับเวลาที่จะปิดเครื่องหรือชัทดาวน์ระบบบนวินโดวส์ 8 เพราะกว่าจะเข้าถึงการ Shutdown ก็เล่นไปหลายคลิก แม้ว่าตามจริงก็มีคีย์ลัดอย่างกดปุ่ม Windows + I ก็จะเข้าสู่เมนูการ Shutdown ได้ทันที ส่วนอีกวิธีหนึ่งก็คือ เมื่ออยู่ที่หน้าเดสก์ทอป ให้กดปุ่ม Alt + F4 หากไม่มีโปรแกรมใดๆ รันอยู่ขณะนั้น โปรแกรมก็จะเข้าสู่โหมดการ Shutdown ให้ทันที ซึ่งก็เป็นวิธีง่ายๆ ที่ทำกัน แต่ปัญหาก็คือ ไม่ใช่ทุกคนที่จะจำบรรดาคีย์ลัดได้ตลอด
หากมีวิธีง่ายๆ คลิก 2 ทีแล้วปิดเครื่องได้ก็คงก็ดีไม่น้อย อย่ารอช้าหากคุณเป็นคนหนึ่งที่ประสบปัญหาแบบนี้ เรามีวิธีที่จะช่วยให้การปิดเครื่องทำได้เร็วขึ้น รวมถึงการ Restart ได้อย่างรวดเร็ว ก็คงหนีไม่พ้นวิธีสุดคลาสสิคที่คุ้นเคย ซึ่งก็คือการสร้างชอร์ตคัตขึ้นนั่นเอง โดยทำเป็นปุ่มชัทดาวน์ขึ้นมาเฉพาะ ส่วนวิธีการก็คือ
1
คลิกขวาบนพื้นที่หน้าจอเดสก์ทอปว่างๆ แล้วเลือก New > Shortcut
2
ให้พิมพ์คำสั่งต่อไปนี้ shutdown / s/ t 0 (ตัวสุดท้ายเป็นเลขศูนย์) จากนั้นคลิก Next
3
เมื่อได้เป็นชอร์ตคัตแล้ว ก็ให้คลิกขวาอีกครั้งที่ไอคอนใหม่นี้ แล้วเลือกที่หัวข้อ Pin to Start
4
จากนั้นอาจจะลากเข้ามาใส่ Taskbar เพิ่มเติมด้วย เพื่อที่จะคลิกเพื่อสั่ง Shutdown ได้ทันที
เท่านี้เราก็จะได้ปุ่มที่ใช้สั่งชัตดาวน์ที่สามารถเรียกใช้ได้ง่ายๆ แล้ว แถมยังเร็วอีกด้วย ไม่ส่งผลกระทบต่อระบบอีกด้วย เพียงแต่อาจจะต้องระวังขึ้นอีกนิด ในการคลิกที่หน้าจอ ถ้าเผลอไปคลิกโดน ระบบก็อาจจะชัตดาวน์อย่างรวดเร็วนั่นเอง แนะนำว่าให้หาพื้นที่จัดวางให้เหมาะจะดีที่สุด

อ้างอิง 
notebookspec.com

ใช้เม้าส์กับสมาร์ทโฟนได้ง่ายๆ แค่มี USB On-The-Go เท่านั้น

ใช้เม้าส์กับสมาร์ทโฟนได้ง่ายๆ แค่มี USB On-The-Go เท่านั้น


ตอนนี้สมาร์ทโฟนนั้นได้รับการพัฒนาไปมากกว่าในอดีตหลายเท่าจนตอนนี้ก็ทำงานได้ใกล้เคียงกับคอมพิวเตอร์แล้ว แต่ถ้าครั้งไหนอยากจะใช้เม้าส์ที่เราถนัดมือเพื่อคุมการกดใช้แอพฯ ในสมาร์ทโฟนของเรานั้นจะมีวิธีทำไหม? จะยากไหม? ซึ่งวันนี้ทางทีมงานจะมาไขข้อสงสัยวิธีการใช้เม้าส์เชื่อมต่อเข้ากับสมาร์ทโฟนกัน โดยสิ่งที่จำเป็นในการทำนั้นจะมีอยู่สองสามอย่างด้วยกัน
samsung-galaxy-s4-xl
dynamode_usb_on-the-go_micro_usb_connectivity_cable_for_android_devices_-_c-usbf-mi
สิ่งของสามอย่างที่เราต้องมีก็คือสมาร์ทโฟนระบบปฏิบัติการ Android 1 เครื่อง (หรือจะเป็น Symbian ก็ได้), สาย USB On-The-Go สุดท้ายเป็นเม้าส์อีกหนึ่งตัว จะเป็นแบบไร้สายหรือจะเป็นแบบมีสายก็ได้ แล้วแต่ความชอบส่วนตัว
13-07-2013 18-58-4313-07-2013 18-58-25
ตอนนี้เพียงแค่เราเสียบสาย USB On-The-Go เข้ากับสมาร์ทโฟนของเราและเชื่อมต่อตัว Nano Receiver หรือตัวส่งสัญญาณของเม้าส์ไร้สายเข้ากับด้านที่รองรับการเชื่อมต่อ USB ของสาย USB On-The-Go แล้วรอสักครู่ให้ตัวเครื่องสมาร์ทโฟนตรวจเช็คสิ่งที่เชื่อมต่อสักครู่
2
พอเครื่องตรวจสอบการเชื่อมต่อเสร็จแล้วก็จะมีเคอร์เซอร์เม้าส์ปรากฏขึ้นที่หน้า Home Screen ของสมาร์ทโฟนให้เราสามารถใช้งานได้ ในขั้นตอนนี้เราสามารถเลื่อนเม้าส์เพื่อคลิกและเรียกใช้งานแอพฯ ได้เหมือนกับการใช้นิ้วแตะเลย แต่อาจจะตอบสนองได้ไม่ลื่นไหลเท่ากับการใช้นิ้วแตะนักแต่ก็ถือว่าใช้ได้ทีเดียว
ขั้นตอนสั้นๆ ง่ายๆ แค่นี้ก็สามารถใช้เม้าส์กับสมาร์ทโฟนได้ง่ายๆ แล้ว หากครั้งไหนไม่สะดวกใช้นิ้วสัมผัสที่หน้าจอในกรณีที่มือเลอะของกินมาก็ใช้วิธีนี้ได้เช่นกัน เรียกว่าใช้งานสะดวกดีทีเดียวและหาของมาใช้ร่วมกันได้ไม่ยากอีกด้วย

ที่มา 
notebookspec.com

ช่วยกดไลค์ติดตามข่าวสารด้วยนะครับ ^^